นักข่าวนิตยสารไทม์ประจำกรุงเทพฯ นายโรเบิร์ต
ฮอร์นแสดงจุดยืนค่อนข้างชัดเจนมานานว่าเขาเห็นอกเห็นใจนายอภิสิทธิ์
และพรรคการเมืองฆาตกรและปัญญาอ่อนอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (มีข่าวลือถึงความชื่นชอบของนายฮอร์นที่มีต่อแสงสีคาวโลกีย์ของกรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นเรื่องประเภทที่ไม่สามารถเล่าให้เพื่อนพ้องหรือครอบครัวฟังได้)
อย่างไรก็ตามความเห็นของนายฮอร์นบนเฟคบุ๊คเพจทีมงานนายกรณ์เป็นสิ่งที่น่าอัปยศที่สุด (คลิกกรุณาดูภาพขยาย)
(คำแปล: คุณแดวิดสัน ผู้ช่วยคุณอภิสิทธิ์เป็นคนรายงานตำรวจว่าเขาได้รับข้อความเอสเอ็มเอส
4 ข้อความ จากบุคคลนิรนาม ซึ่งบางข้อความเป็นคำข่มขู่ ไม่ใช่แค่คำดูหมิ่น การแจ้งตำรวจเรื่อง
คำข่มขู่ต่อบุคคลอื่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ตำรวจเป็นคนที่แกะข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ ไม่ว่าซิมการ์ดโทรศัพท์จะถูกแฮค ขโมยหรือถูกโต้แย้งในประเด็นอื่นๆหรือไม่
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า คุณลุงเอสเอ็มเอสอาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่ได้รับความยุติธรรม
อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องแทบจะไม่เป็นธรรมเอาเสียเลยที่จะกล่าวโทษผู้ช่วยนายอภิสิทธิ์หรือเขา
(อภิสิทธิ์-ผู้แปล) หรือจะกล่าวได้ว่า พวกเขาเป็นคน
“รายงานตำรวจเกี่ยวกับคุณลุงเอสเอ็มเอส” และพวกเขาไม่ทราบว่าใครคืผู้ส่งข้อความ
แต่ผมเห็นด้วยกับคุณว่าระบบยุติธรรมในประเทศไทยแย่มากและควรได้รับการปฏิรูป)
ความเห็นนี้แสดงให้เห็นว่านายฮอร์นให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกระบวนการที่ทำให้นักโทษทางการเมืองอย่างนายอำพลตั้งนพกุล (หรืออากง) ต้องเข้าไปนอนในคุก ซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การเสียชีวิตของอากง
นายฮอร์นยังอ้างอีกว่าข้อความเอสเอ็มเอสที่ถูกอ้างว่าเป็นของอากงเป็นข้อความที่มีลักษณะข่มขู่และรุนแรง
นายฮอร์นทำเช่นนี้เพราะพยายามที่จะหาเหตุผลดีๆให้การสนับสนุนของเขาที่มีต่อนายอภิสิทธิ์นั้น
ถึงแม้ว่าการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพื่อทำร้ายประชาชนคนธรรมดาของอดีตนายกรัฐมนตรีจะชั่วช้าเพียงใดก็ตาม
มีแต่ “นักข่าว” ชั้นต่ำเท่านั้นที่มองหาเหตุผลดีๆให้กับแคมเปญการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
ซึ่งเป็นแคมเปญที่ผลิตรัฐบาลจอมเซ็นเซอร์และทารุณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
และในขณะเดียวกันก็ยังพยายามกล่าวโทษชายผู้บริสุทธิ์ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว
สรปคือ นายโรเบิร์ต ฮอร์นคือตัวอย่างของกลุ่มคนที่พยายามหาข้อแก้ต่างให้กับการสังหารหมู่
รัฐประหารและเผด็จการฟาสซิสต์เฉเช่นเดียวกับกลุ่มสื่อมวลชนตะวันตกในกรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดกับพรรคประชาปัตย์;
พรรคการเมืองชื่อเสียงเน่าและเกลียดกลัวประชาธิปไตย คำโกหก
การพูดความจริงเพียงครึ่ง
อคติทางการเมืองและข้ออ้างอันไม่มีมูลของนักข่าวหเล่านี้ซึ่งถูกอ้างว่าว่าคือ
“ความเป็นกลาง” คือส่วนหนึ่งของปัญหาอย่างชัดเจนและยังเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าเหตุใดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จึงได้ลอยตัวจากการใช้พลซุ่มยิงสังหารประชาชนมือเปล่าเกือยร้อยรายในกรุงเทพฯ
เมื่อปี 2553
การที่นายฮอร์นแสดงความเห็นแบบหน้าตายบนประเด็นสนทนาที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าพวกเขาถูก
“กดขี่” จึงทำให้นายฮอร์นดูเหมือนเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจผู้สนุบสนุนพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าที่เขาเป็นอยู่แล้ว
เพราะความพยายามดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าขบขันที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะความจริงแล้ว
ปัญหารากเหง้าของพวกเขา ไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาทำตัวไม่น่าถูกเลือกตั้งเท่านั้น แต่พวกเขายังไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งใดๆด้วย
No comments:
Post a Comment
Abusive comments won't be published.
Note: only a member of this blog may post a comment.