ตามที่สังเกตเห็นจากหลายบทความของบล๊อคนี้จะพบว่าการมาเยือนลอนดอนของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ดำเนินไปด้วยความราบรื่นแต่อย่างใด
เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้นที่ฆาตกรโหดจากกรุงเทพฯ อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายอันเกี่ยวข้องกับการตายของผู้ชุมนุมมือเปล่าในกรุงเทพฯเมื่องปี 2553 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขาสั่งทหารให้เข้าไปปราบปรามผู้ชุมชุมเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างทารุณส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย (คำเตือน ภาพถ่ายวิดีโออันนี้และอีกอันคือภาพผู้ชุมนุมมือเปล่าถูกทหารไทยยิงอย่างชัดเจนและน่าเจ็บปวดใจ)
นับแต่เรื่องที่ถูกนักศึกษาจาก UCL ยกเลิกการบรรยายและพยายามร้องขอโอกาสนั้นจนได้พูดที่มหาลัย จนไปถึงการอ้างที่น่าแปลกประหลาดว่าเขาได้รับ "เชิญให้ไปพูดโดยรัฐสภาอังกฤษ" รวมไปถึงบทสัมภาษณ์ที่ห่วยแตกกับนักข่าวบีบีซีมิชาล ฮุสเซน นับได้ว่าเป็นสองสามวันที่ผ่านมาดูไม่ค่อยจะสู้ดีเลยสำหรับนายมาร์ค
แต่ยังมีมากกว่านั้น เพราะนายอภิสิทธิ์มักจะชอบนำเสนอข้อมูลอย่างบิดเบือนหรือโกหกจนมีเรื่องให้ต้องหักล้าง โดยล่าสุดคือเรื่องการไปเยือนสำนักงาน Greater London Authority (จีเอลเอหรือที่ทำการสภาลอนดอน) และนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน
ตามที่เราเห็ในเฟคบุ๊คของนายอภสิทธิ์ ( ดู screengrab ข้างล่าง) ดูเหมือนว่าเขาจะบอกใบ้ว่าการไปเยือนจีแอลเอนั้นเป็นการไปเยือนของอย่างเป็นทางการที่สำคัญมาก
แต่ผู้อ่านคงไม่แปลกใจนักหากผมจะบอกว่านายอภิสิทธิ์พยายามบิดเบือนเรื่องนี้เช่นกัน
ผมติดต่อไปที่สำนักข่าวของนายกเทศมนตรีลอนดอนวันนี้ และเขายืนยันว่าการพบปะของนายอภิสิทธิ์และนายกเทศมนตรีไม่ใช่การพบปะที่เป็นทางการแต่อย่างใดเลย
นี่คือการพบปะส่วนตัวระหว่างชายสองคนคือนายเวชชาชีวะและนายจอห์นสันซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันนักเขียนบล๊อคการเมืองลอนดอนที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถืออย่างบล๊อค Snipe London ยังเขียนเรื่องดังกล่าวโดยพาดหัวข่าวว่า
บอริสตอนรับอดีตนายกรัฐมนตรีไทยแม้ว่าจะถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย
แล้วอย่างนี้นายอภิสิทธิ์มาทำอะไรที่ลอนดอนกันแน่? เขาไม่ได้มีภารกิจทางการนอกจากเรื่องที่เขาปั้นน้ำเป็นตัวและพยายามอย่างจนตอกเพื่อจะทำให้เขาเหมือนยังมีตัวตน นี่เป็นปรากฎการณ์ที่ค่อนข้างน่าเศร้าใจและสลดหดหู่ และเราคงได้แต่หวังว่าในอนาคตเขาจะมีโอกาสได้ใช้เวลาอย่างมากมายเพื่อแก้ต่างให้ตัวเองในข้อหาฆ่าคนตายซึ่งเป็นเรื่องที่จะสร้างความยุ่งยากลำบากใจให้แก่เขา
.. ดูแล้วเหมือนเป็นการดิ้นหนีตาย .. ด้วยการพยายามบิดเบือนสร้างภาพ .. เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น .. ดูมีค่าขึ้น .. และที่สำคัญเป็นการทำเพื่อปลอบใจตัวเอง .. ที่กำลังขวัญหนีดีฝ่อ สั่นระ่ทึก .. กับการตัดสินลงโทษความผิดที่กำลังจะเกิดขึ้นแก่ตัวมัน ..
ReplyDeleteI think he travelled to UK to look for Political asylum in case he is found guilty with the court cases and tries to find allies among old friends .
ReplyDelete