Blogging break

Asia Provocateur will be taking a Xmas break from today. Unless something dramatic happens in the next couple of weeks assume we'll be off-air.

Merry Xmas, Happy New Year to all our readers and huge thanks to the idiots at Team Abhisit and Team Korn for increasingly our traffic exponentially to almost 1000 hits per hour over the last ten days.

And please remember that Father Christmas is a Red Shirt... ;-)

คลิปวิดิโอพิเศษ: Asia Provocateur ได้รับเชิญไปรัฐสภาอังกฤษแบบนายอภิสิทธิ์

เย็นวานนี้ ผมโชคดีพอที่จะรับเชิญโดยรัฐสภาอังกฤษให้ไปพูดปาฐกถาในงาน คำเชิญส่งมาไม่นานหลังจากคำเชิญของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งทุกคนทราบดีว่าเขาได้รับเชิญจากรัฐสภาอังกฤษให้ไปพูดปาฐกถาเช่นเดียวกัน

เราได้ทำวิดีโอสั้นๆเกี่ยวกับโอกาสที่สำคัญและยิ่งใหญ่มาก ซึ่งรวมถึงทีมงานของเราที่รัฐสภาพูดุยกันในหลายประเด็นที่สำคัญและเป็นเรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน

*โปรดสังเกตว่าคำเชิญที่ผมและอภิสิทธิ์ได้รับจากรัฐสภาเป็น "คำเชิญพิเศษแบบนายภิสิทธิ์" คำเชิญเหล่านี้ไม่ใช่คำเชิญจากรัฐสภาหรือคำเชิญให้ไปพูดปาฐกถาแต่อย่างใด ทั้งผมและอภิสิทธิ์ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงที่จัดโดยสส.รูปแบบพิเศษของคำเชิญจากรัฐสภาให้ไปพูดปาฐกถานั้นเป็นเพียงจินตนาการของผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น"

VIDEO EXCLUSIVE: Asia Provocateur gets an Abhisit-style invite to the UK Parliament

Yesterday evening Asia Provocateur was lucky enough to be invited by the UK Parliament to speak at an event. This invitation comes hot on the heels of the invitation of the former Prime Minister of Thailand, Abhisit Vejjajiva, who, as everyone knows, was also invited to speak by the UK Parliament.*

Here at AP we've put together a short video of this momentous and hugely significant occasion which involved a member of the AP team in-situ at the Parliament speaking about a whole range of very important and ground breaking matters.

*Please note that both AP and Abhisit's invitations from the UK Parliament were special "Abhisit-style" invitations. They weren't actually invitations from the UK Parliament nor were they invitations to speak. Both AP and Abihisit's invitations were to receptions hosted by MPs. This special form of "Abhisit-style" Parliamentary invitation to speak is noted for the fact that it exists only in the mind of the invitee.

ข่าวลือ: อภิสิทธิ์เต็มใจจะรับตำแหน่งนายกรัฐจากคณะรัฐประหาร?

มีข่าวลือจากกรุงเทพฯว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ยอมรับอย่างชัดเจนว่าเขาตั้งใจที่จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหากมีการทำรัฐประหารล้มรัฐบาลปัจจุบันที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นายอภิสิทธิ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2554 แต่ไม่เคยชนะการเลือกตั้งทั้งสามครั้งนับตั้งแต่เขาเป็นหัวหน้าพรรค และเป็นพรรคที่ไม่รับเสียงส่วนมากในสภามาตั้งแต่ปี 2535

อย่างไรก็ตามข่าวลือที่นายอภิสิทธิ์อาจจะเป็น "นายกรัฐจากคณะรัฐประหาร" ไม่สามารถยืนยันได้ แต่ก็นับว่ายังมีมูลอยู่บ้างหากมองถึงเส้นทางการขึ้นสู้อำนาจของนายอภิสิทธิ์ในปี 2551 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนิยมเผด็จการฟาสซิสต์พันธมิตร กองทัพและพรรคการเมืองซึ่งรวมหัวกันเพื่อทำให้นายอภิสิทธิ์มีเสียงจาก "พรรคร่วม" มากพอที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ก็ยึดเกาะกับอำนาจได้ 30 เดือนโดยการใชทหารจำนวนมากบดขยี้การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2552 และ 2553 ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อทดสอบว่านายอภิสิทธิ์จะได้รับประชามติจากการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่ (พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ราบคาบในการเลือกตั้งปี 2554) พลเรือนเกือบร้อยรายถูกสังหารและหลายพันรายได้รับบาดเจ็บ และไม่นานมานี้นายอภิสิทธิ์ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย

หากมองดูประวัติของเขา ก็ชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์คือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เชื่อในประชาธิปไตย ดังนั้นจึงมีคำถามนี้อยู่ว่า: เขาจะเต็มใจจะรับตำแหน่งนายกรัฐจากคณะรัฐประหารหรือไม่?

ผมได้อีเมลล์ไปหาสมาชิกทีมงานของบุคคลระดับสูงในพรรคประชาธิปัตย์เพื่อถามว่าพวกเขาต้องการที่จะตอบโต้บทความนี้หรือไม่ และผมยินดีจะเผยแพร่คำตอบโต้ของพวกเขา

UPDATE - Abhisit rumour: Willing to be a coup Prime Minister?

UPDATE: A couple of nights back on 10th May Thai Army tanks were roaming the streets of Bangkok on unannounced manoeuvres, something which spooked the government and more of the Thai press, including the national paper, Matichon. Whether these coup rumours go anywhere remains to be seen but the Thai Army is certainly sabre-rattling.

UPDATE: A few days back at start of May 2013, Thailand's biggest selling and most important national newspaper, Thai Rath, reported a group of Thai Army generals had held a suspicious meeting. According to Thai Rath, the security networks close to the present democratically elected Pheu Thai government took this as a warning that a coup might be on the cards. Obviously in the world of rumours, smoke and mirrors that circulate around Bangkok the recent coup rumour is hard to substantiate but the fact Thai Rath reported it is significant.

A rumour is circulating in Bangkok that Thai Democrat Party leader Abhisit Vejjajiva has made it very clear he would be willing to be installed as Prime Minister again if a military coup was used to topple the present, democratically elected Pheu Thai government of Yingluck Shinawatra.

Abhisit was Thai PM from 2008 to 2011 but hasn't won any of the three elections he has led his party into and leads a party that hasn't even been the largest in the Thai Parliament since 1992.

Whilst unsubstantiated the rumour that Abhisit would be willing to be a "coup PM" has some foundation given Abhisit's route to power in 2008 which involved support from the neo-fascist PAD, the army and a political party which was conjured out of thin air in order to give Abhisit a large enough "coalition" to take the PM seat.

Abhisit then clung to power for 30months using 10s of 1000s of troops to crush pro-democracy protests in 2009 and 2010 which called for fresh elections to test Abhisit's mandate (his Democrat Party was crushed in the 2011 election). Almost 100 civilians died and 1000s were injured as a result and Abhisit has recently been charged with murder.

Given his record it's pretty clear Abhisit is a Democrat who doesn't believe in democracy. So the question remains: would he be willing to be a Coup Prime Minister?

I have written to a member of the team of a senior Democrat Party asking them if they wish to respond to this post. I will publish their response here should they make one.

เมื่อนายกเทศมนตรีลอนดอนพบปะกับฆาตกรใจโหดจากกรุงเทพฯ: แต่กระนั้นนายอภิสิทธิ์ก็ยังโกหก

ตามที่สังเกตเห็นจากหลายบทความของบล๊อคนี้จะพบว่าการมาเยือนลอนดอนของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ดำเนินไปด้วยความราบรื่นแต่อย่างใด

เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้นที่ฆาตกรโหดจากกรุงเทพฯ อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายอันเกี่ยวข้องกับการตายของผู้ชุมนุมมือเปล่าในกรุงเทพฯเมื่องปี 2553 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขาสั่งทหารให้เข้าไปปราบปรามผู้ชุมชุมเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างทารุณส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย (คำเตือน ภาพถ่ายวิดีโออันนี้และอีกอันคือภาพผู้ชุมนุมมือเปล่าถูกทหารไทยยิงอย่างชัดเจนและน่าเจ็บปวดใจ)

นับแต่เรื่องที่ถูกนักศึกษาจาก UCL ยกเลิกการบรรยายและพยายามร้องขอโอกาสนั้นจนได้พูดที่มหาลัย จนไปถึงการอ้างที่น่าแปลกประหลาดว่าเขาได้รับ "เชิญให้ไปพูดโดยรัฐสภาอังกฤษ" รวมไปถึงบทสัมภาษณ์ที่ห่วยแตกกับนักข่าวบีบีซีมิชาล ฮุสเซน นับได้ว่าเป็นสองสามวันที่ผ่านมาดูไม่ค่อยจะสู้ดีเลยสำหรับนายมาร์ค

แต่ยังมีมากกว่านั้น เพราะนายอภิสิทธิ์มักจะชอบนำเสนอข้อมูลอย่างบิดเบือนหรือโกหกจนมีเรื่องให้ต้องหักล้าง โดยล่าสุดคือเรื่องการไปเยือนสำนักงาน  Greater London Authority (จีเอลเอหรือที่ทำการสภาลอนดอน) และนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน

ตามที่เราเห็ในเฟคบุ๊คของนายอภสิทธิ์ ( ดู screengrab ข้างล่าง) ดูเหมือนว่าเขาจะบอกใบ้ว่าการไปเยือนจีแอลเอนั้นเป็นการไปเยือนของอย่างเป็นทางการที่สำคัญมาก

แต่ผู้อ่านคงไม่แปลกใจนักหากผมจะบอกว่านายอภิสิทธิ์พยายามบิดเบือนเรื่องนี้เช่นกัน

ผมติดต่อไปที่สำนักข่าวของนายกเทศมนตรีลอนดอนวันนี้ และเขายืนยันว่าการพบปะของนายอภิสิทธิ์และนายกเทศมนตรีไม่ใช่การพบปะที่เป็นทางการแต่อย่างใดเลย

นี่คือการพบปะส่วนตัวระหว่างชายสองคนคือนายเวชชาชีวะและนายจอห์นสันซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกัน

นักเขียนบล๊อคการเมืองลอนดอนที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถืออย่างบล๊อค Snipe London ยังเขียนเรื่องดังกล่าวโดยพาดหัวข่าวว่า

บอริสตอนรับอดีตนายกรัฐมนตรีไทยแม้ว่าจะถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตาย

แล้วอย่างนี้นายอภิสิทธิ์มาทำอะไรที่ลอนดอนกันแน่? เขาไม่ได้มีภารกิจทางการนอกจากเรื่องที่เขาปั้นน้ำเป็นตัวและพยายามอย่างจนตอกเพื่อจะทำให้เขาเหมือนยังมีตัวตน นี่เป็นปรากฎการณ์ที่ค่อนข้างน่าเศร้าใจและสลดหดหู่ และเราคงได้แต่หวังว่าในอนาคตเขาจะมีโอกาสได้ใช้เวลาอย่างมากมายเพื่อแก้ต่างให้ตัวเองในข้อหาฆ่าคนตายซึ่งเป็นเรื่องที่จะสร้างความยุ่งยากลำบากใจให้แก่เขา

When Boris Johnson met the Butcher of Bangkok; yet more Abhisit lies

As noted by several other posts in this blog Abhisit's visit to London hasn't gone terribly well.

Only last week the Butcher of Bangkok, former Thai PM, Abhisit Vejjajiva, was charged with murder relating to the death of an unarmed protester in Bangkok in 2010 after he ordered a bloody military crackdown on pro-democracy protests that resulted in almost 100 deaths. (WARNING The video footage here and here of clearly unarmed protesters being shot by Thai soldiers is harrowing and very graphic).

From UCL students cancelling and then reinstating his appearance at the university, to his bizarre claim that he was "invited to speak by the UK Parliament", followed by his butt-clenchingly bad interview with the BBC's Mishal Husain it's not been a great few days for Mark.

But there's more. With Abhisit there are always more misrepresentations and lies to debunk and the latest is his visit to the Greater London Authority (GLA) and the Mayor of London.

As we can see from Abhisit's Facebook page here (screengrab below) he seems to be suggesting that his GLA visit was was some kind of very important high profile official visit.

Well, it will probably come as no surprise to readers here that Abhisit misrepresented this too.

I was in contact with the Mayor of London's press office during the day and they confirmed that Abhisit and the Mayor's meeting was not official in any way, shape or form.

This was a private meeting between two men, Mr Vejjajiva and Mr Johnson, who were at school together.

The well-known and respected blog on London politics, Snipe London also picked up on the story with a headline that said

Boris welcomes former Thai PM despite murder charge

So what was Abhisit actually doing in London? He had no real official engagements apart from the ones he made up in his head and just to seemed flit around in a desperate attempt to appear relevant. It's quite a sad and sorry spectacle and one can only hope that he gets the chance to spend plenty of time in the future defending himself from that troublesome murder charge.

“โอเค ฉันกำลังจะยกเลิกงานนายอภิสิทธิ์” นักศึกษาผู้จัดงานจาก UCL ยกเลิกการบรรยายพิเศษของนายอภิสิทธิ์

หลังจากถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนคนตาย อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เดินทางมาอังกฤษเพื่อโปรโมตตัวเองเมื่อไม่นานมานี้

อย่างไรก็ตาม ทัวร์ครั้งนี้เริ่มที่จะล่มไม่เป็นท่าอย่างรวดเร็ว

เมื่อสองวันก่อน ข้ออ้างลวงโลกว่าเขาถูกรัฐสภาอังกฤษเชิญให้ไปปาฐกฐาได้ถูกแฉว่าเป็นความตั้งใจบิดเบือนข้อมูลหรือที่เราเรียกสั้นๆว่าโกหกนั้นเอง แม้แต่สำนักข่าวรัฐสภาอังกฤษยังต้องชี้แจงว่าคำเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยง “ไม่ควรถูกมองว่าเป็นคำเชิญให้ไปพูดต่อรัฐสภาทั้งหมด”

การบรรยายพิเศษของเขาในเย็นวันอาทิตย์ที่ University College London (UCL) ก็มีปัญหา เพราะผู้จัดได้ยกเลิกงานนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ และชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์และทีมงานนายกรณ์ได้อ้อนวอนผู้จัดหลายชั่วโมงตลอดเช้าวันอาทิตย์รขอโอกาสให้เขาได้พูดบรรยายพิเศษ (ในที่สุดเขาก็ได้รับอนุญาติให้บรรยายพิเศษที่ UCL)

กรุณากดที่ screengrab นี่เพื่อดูข้อความของหนึ่งในผู้จัดงานซึ่งยืนยันว่าการบรรยายพิเศษของนายอภิสิทธิ์ได้ถูกยกเลิก UCL (แปลว่า "โอเค ฉันกำลังยกเลิกงานของนายอภิสิทธิ์แล้ว ยกเลิกเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ!!”)

ท้ายนี้เขาถูกสัมภาษณ์โดยบีบีซี และต้องเผชิญหน้ากับคนที่ไม่ยอมให้เขาโกหกและตั้งตำถามน่าสนใจ (น่าจะมีนักข่าวต่างชาติแบบนี้ในกรุงเทพซัก 5 คน) ในการสัมภาษณ์นี้ เขาเปล่งคำพูดที่ยืนยันความเลวของเขา “พอดีโชคร้ายที่มีบางคนตาย”

การสัมภาษณ์นี้เป็นการสัมภาษณ์ที่แย่มากสำหรับนายอภิสิทธิ์ซึ่งแม้แต่ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ที่ปกติหิวโหยเรื่องการโฆษณาตนเองยังไม่แปะลิงค์บทสัมภาษณ์ของบนเฟ็คบุ๊ค และในหลายครั้งที่เขาแสยะยิ้มแบบจอมปลอมในขณะที่เขาพยายามโน้มน้าวผู้สัมภาษณ์ และบิดตัวไปมาบนเก้าอี้เขา (นี่คือคำแปลบทสัมภาษณ์ภาษาไทย)

รัฐสภาอังกฤษระบุ: การอ้างว่าอภิสิทธิ์ถูกเชิญไปพูดที่รัฐสภาเป็นเรื่องเท็จ

ผมเพิ่งได้รับข้อความตอบกลับจากสำนักข่าวรัฐสภาอังกฤษ และชัดเจนมากว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ถูกเชิญจากทางรัฐสภาหรือถูกเชิญให้ไปพูดที่รัฐสภา และบุคคลที่เชิญนายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นประธานกลุ่มพรรคการเมืองทุกพรรคในรัฐสภาด้านประเทศไทย (เอพีพีจี-APPG) และสส. นาย Roger Godsiff  ไม่ใช่ตัวแทนที่เป็นทางการของรัฐสภา การที่นายกรณ์อ้างว่าพวกเขาได้รับเชิญจากรัฐสภาเป็นเรื่องเท็จที่น่าขบขัน พวกเขาได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงทั่วไปที่จัดโดยสส.ในอาคารรัฐสภา

ตามที่ท่านสอบถามมา นักการเมืองต่างชาติมักจะพูดคุยกับสส.ในการประชุมกลุ่มเอพีพีจีหรือในงานเลี้ยงต้อนรับเสมอ แต่นี่ไม่ควรถูกมองว่าเป็นคำเชิญให้ไปพูดต่อรัฐสภาทั้งหมด เพราะกลุ่มเอพีพีจีไม่ได้มีสถานภาพที่เป็นทางการใดๆในรัฐสภา การพูดปาฐกถาต่อรัฐสภามักเกิดขึ้นในการมาเยือนอย่างเป็นอย่างเป็นทางการของผู้นำรัฐ และเกี่ยวข้องกับการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสภาสูง (วุฒิสภา) การกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก และคุณสามารถเข้าไปดูรายชื่อว่าใครบ้างที่กล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ http://www.parliament.uk/documents/commons/lib/research/briefings/snpc-04092.pdf.  

Abhisit's invitation to speak to Parliament debunked: official UK Parliament response.

Brief post but just had a response from the UK Parliament's press office. And it is unequivocal. Abhisit was not invited by Parliament nor was he invited to speak to Parliament nor was the person who invited him, chair of the Thailand All Party Parliamentary Group (APPG), Roger Godsiff MP, even an official representative of Parliament. That he and Korn claimed they were invited by Parliament is quite risible. They were invited to a simple reception inside the Parliament building hosted by an MP. 

With regards to your query, foreign politicians often address parliamentarians at meetings of APPGs or receptions, but this should not be taken as an invitation to address Parliament as a whole, as APPGs have no official status within Parliament.  An Address to Parliament normally takes place as part of a state visit, and involves a speech to both the House of Commons and the House of Lords.  A formal address is a comparatively rare event, and you can see a listing of some of the most recent ones here:http://www.parliament.uk/documents/commons/lib/research/briefings/snpc-04092.pdf.  

Begging students and squirming to camera: Abhisit's UK tour falls apart

In the wake of his charge for murder, former Thai PM Abhisit is carrying on with his self-promotion tour of the UK.

However the wheels are starting to fall off. 

Over the last two days his bogus claims that he'd been invited by the UK Parliament to speak there have been exposed as deliberate misrepresentations aka lies. Even the UK Parliament's press office weighed in and said that an invitation to a reception "should not be taken as an invitation to address Parliament as a whole".

Even his talk at University College London on Sunday evening ran into problems with the organisers initially cancelling his appearance before Abhisit and Korn's team apparently pleaded throughout the early hours of Sunday morning begging for him to be allowed to talk.

Please click on this screengrab of a message from one of the UCL organisers confirming Abhisit was cancelled.

Finally he is interviewed by the BBC and finds himself confronted with someone who is not going to just let him put out his lies and follows up with some quite decent questions (if only for 5 similar foreign journalists in Bangkok). In this interview he utters a line that will complete Abhisit's enduring and well-deserved infamy - "Unfortunately Some People Died"

It's pretty much a car-wreck of an interview for Abhisit and on several occasions his false smile slips as he attempts to talk-over the interviewer and squirms in his seat.

ทีมงานนายกรณ์เผยแพร่หลักฐานยืนยันว่าพวกเขาโกหก

เมื่อว่านี้ผมเขียนบทความเกี่ยวกับข้อความอันโอ่อ่าซึ่งปรากฎบนหน้าเฟคบุ๊คนายกรณ์ที่อ้างว่านายอภิสิทธิ์และเขาได้รับเชิญจากทางรัฐสภาอังกฤษให้ไปปาฐกถาในงานเลี้ยงต้อนรับจัดโดยมูลนิธิ Thai Childern's Trust

ตามที่ผมได้กล่าวไปแล้วเมื่อวานว่าหลังจากตรวจสอบเวปไซต์ของมูลนิธิ Thai Childern's Trust และรัฐสภาอังกฤษ ผมไม่พบข้อมูลว่ามีการเชิญหรือข้อระบุว่านายกรณ์และนายอภิสิทธิ์จะเข้าร่วมงานดังกล่าวแต่อย่างใด

ทีมงานนายกรณ์ได้ตอบโต้ข้อเรียกร้องของผมและเผยแพร่ภาพถ่ายบัตรเชิญนายกรณ์ให้เข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่รัฐสภา งานดังกล่าวจัดโดยนาย Roger Godsiff สส.พรรคแรงงานซึ่งเป็นประธานกลุ่มรัฐสภาของพรรคการเมืองทุกพรรคในงานด้านประเทศไทยผมต้องขอขอบคุณทีมงานนายกรณ์ที่ส่งหลักฐานชัดเจนซึ่งพิสูจน์ว่าพวกเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องที่นายกรณ์และนายอภิสิทธิ์ได้รับ "คำเชิญจากรัฐสภาอังกฤษให้ไปพูดปาฐกถา"

ชัดเจนมากว่าคำเชิญนี้ไม่ได้มาจากทางรัฐสภาหรือไม่ใช่คำเชิญให้ไปปาฐกถา แต่เป็นเพียงคำเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงทั่วไปจากสส.ผู้จัดงาน มีการจัดงานเลี้ยงในลักษณะนี้ที่รัฐสภาอังกฤษหลายครั้งต่อวัน เป็นงานเลี้ยงเกี่ยวกับหลายเรื่องโดยมักมีการเชิญผู้คนหลายคนจากหลายกลุ่ม สส.สามารถใช้สัญลักษณ์ซุ้มประตูหรือประตูบนหัวกระดาษหรือบัตรเชิญได้ สัญลักษณ์เหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปบนอุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร เก้าอี้ หรือจานชามของรัฐสภา

ดังนั้นผมขอพูดอีกครั้งว่า: คำเชิญไปร่วมงานเลี้ยงที่รัฐสภาไม่ได้เป็นคำเชิญให้ไปปาฐกถาจากรัฐสภาอังกฤษอย่างแน่นอนและการอ้างว่าคำเชิญดังกล่าวมาจากรัฐสภาเป็นเรื่องที่เหลวไหลและไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ ในสองเดือนที่ผ่านมาผมได้รับเชิญให้ไปร่วมงานลักษณะแบบนี้สองครั้ง และผมไม่เคยอ้างแบบไร้สาระว่าผมได้รับเชิญให้ไปปาฐกถาที่รัฐสภา และนี่คือรูปภาพของบัตรเชิญที่สส.พรรคแรงงานอีเมลล์มาเชิญผมให้ไปร่วมงานเกี่ยวกับกลุ่มนักดนตรี Pussy Riot ที่รัฐสภา แน่นอน ผมสามารถบอกได้ว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างคำเชิญจากสส.ให้ไปร่วมงาน และคำเชิญจากรัฐสภาให้ไปปาฐกถาในฐานะแขกของรัฐสภา เป็นเรื่องแปลกมากที่นายกรณ์ไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างได้

นายกรณ์ยังอ้างว่านายอภิสิทธิ์ได้รับเชิญจากรัฐสภาให้ไปปาฐกถา ผมจะสอบถามสำนักข่าวรัฐสภาพรุ่งนี้ว่าทางรัฐสภาได้เชิญทั้งนายกรณ์หรือนายอภิสิทธิ์ไปปาฐกถาจริงหรือไม่ และผมจะบอกสส. นาย Roger Godsiff ว่านายกรณ์ตั้งใจจะให้ข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับคำเชิญของเขาโดยอ้างว่ารัฐสภาเชิญนายอภิสิทธิ์ให้ไปปาฐกถา ในขณะที่คำเชิญเป็นเพียงคำเชิญให้ไปร่วมงานเลีี้ยงทั่วไปเท่านั้น

Korn: more lies about his and Abhisit's "invitation to speak at the UK Parliament"

Yesterday I blogged about Korn's grandiose Facebook claims that Abhisit and he had been invited by the UK Parliament to speak there during a reception hosted by a reputable British children's charity.

As stated yesterday after checking both the children's charity and Parliament websites I could find no mention of either Korn or Abhisit's attendance or invitation.

Korn's team have now reacted to my claims and published a photo of Korn's invitation to attend a reception at Parliament. The event is hosted by Roger Godsiff, the Labour Party MP who is chair of the All Party Parliamentary Group on Thailand.

Very obviously this invitation is not from the Parliament nor is it an invitation to speak. It is a simple reception invitation from an MP who acting as a host. An MP can  use the portcullis or gate symbol on headed notepaper or invites. The symbol can also be found on Parliamentary cutlery, chairs and china. Receptions like this are being hosted several times a day in the UK Parliament with a huge range of people being invited.

So let's reiterate: an invitation to a reception at Parliament is absolutely not an invitation from the UK Parliament to speak and to claim that it is, is completely absurd. In fact, over the last two months I've personally been invited to two similar receptions and at no time did I make the ludicrous claim I'd been invited to speak at the Parliament. Here’s a screengrab of an invitation emailed to me by a Labour Party MP to attend an event at Parliament about Pussy Riot. I am able, of course, to discern the difference between an invitation from an MP for me to attend an event with one from the Parliament to speak as their guest. It’s very odd Korn can’t do the same.

 Korn also claimed Abhisit was invited by the Parliament to speak. I will ask the Parliament press office tomorrow if the Parliament has invited either Korn or Abhisit to speak. I will also inform Roger Godsiff MP that Korn deliberately misrepresented his invitation to Thais and claimed it was a Parliamentary invite to speak when it was just a basic invitation to a reception.

นายอภิสิทธิ์ได้รับเชิญจากรัฐสภาอังกฤษ: นายกรณ์โกหกอีกแล้ว?

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย นายกรณ์ประกาศบนหน้าเฟคบุ๊คของเขาว่าทั้งเขาและอดีตนายกรัฐมนตรีไทยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - ผู้ซึ่งถูกตั้งข้อหาสังหารคนขับแท็กซี่นายพัน คำกองระหว่างการชุมนุมในปี 2553 เมื่อไม่นานมานี้ - ได้รับเชิญจากรัฐสภาอังกฤษให้ไปปาฐกถาเกี่ยวกับมูลนิธิการกุศลในอังกฤษที่ชื่อว่า Thai Children’s Trust

เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จึงยากที่จะยืนยันว่ามีการจัดงานนี้ขึ้นจริงหรือไม่ ผมเข้าไปเช็คเวปไซต์ของรัฐสภาอังกฤษและมูลนิธิ แต่ปรากฎว่าไม่มีการกล่าวถึงงานดังกล่าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามผมได้พูดคุยกับคนผู้รู้จักซึ่งทำงานที่รัฐสภาวันนี้ และดูเหมือนว่าพวกเขาคิดว่าคงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อทีเดียวหากคนอย่างนายอภิสิทธิ์ซึ่งเพิ่งจะถูกตั้งข้อฆ่าคนตายจะได้รับอนุญาติให้เข้าไปใกล้กลุ่มองค์กรที่ทำหน้าที่ออกกฎหมายในอังกฤษ ดังนั้นจึงน่าสงสัยว่านายกรณ์แต่งเรื่องนี้ขึ้นเพื่อจะลบภาพลักษณ์แย่ๆของนายอภิสิทธิ์หรือไม่ ชัดเจนว่าหากนายกรณ์โกหก ผมจะพูดคุยกับสำนักข่าวของรัฐสภาอังกฤษในวันจันทร์เพื่อยืนยันเรื่องดังกล่าว และนี่จะทำให้นายกรณ์และนายอภิสิทธิ์ต้องอับอายขายหน้าหนักเข้าไปอีก

วิดีโออันน่าสะเทือนขวัญที่นักเรียนวัย 17 ปี นายสมาพันธ์ “เฌอ” ศรีเทพถูกทหารไทยยิงในปี 2553

สิ่งที่น่าประหลาดคือมูลนิธิที่อ้างว่าปกป้องสิทธิเด็กจะร่วมงานกับนายอภิสิทธิ์ ชายที่ส่งพลซุ่มยิงจากกองทัพไทยไปยิงเยาวชนและเด็กในกรุงเทพเมื่อปี 2553

มาดูคดีของเด็กชายวัย 14 ปี คุณากร “อีซ่า” ศรีสุวรรณ ซึ่งถูกยิงสังหารในใจกลางกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ระหว่างการปราบปรามนองเลือดอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนซึ่งสั่งการโดยอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เมื่อมีการจัดการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเพราะพรรคของเขาขึ้นสู่อำนาจโดยใช้กลลวงของศาลและทหารในปี 2551 ด.ช.คุณากรถูกทหารไทยยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันที่ทำให้นายพัน คำกอง คนขับแท็กซี่เสียชีวิต ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว

Abhisit at UK Parliament: Is Korn lying again?

Thailand's former Finance Minister Korn announced today on his Facebook page that both him and former Thai PM, Abhisit Vejjajiva - who was just been charged with the murder of taxi driver Phan Khamkong, during protests in 2010 - have been invited by the UK Parliament to speak about a reputable UK-based children's charity this coming Monday, 10th December.

As it is the weekend it's hard to fully confirm whether this event is taking place or not but I've been unable to find any mention of it on either the UK Parliament's own website or that of the children's charity concerned.

I did however manage to speak to my own parliamentary contacts today and they seemed to think it would be simply incredible for Abhisit to be let anywhere near the UK's lawmaking body given his recent murder charge. So one has to wonder if Korn is just making stuff up in order to bolster Abhisit's appalling public image. Obviously if Korn has lied - and I'll be speaking to the UK Parliament's press office on Monday to confirm the situation - this will only humiliate him and Abhisit further.

Shocking footage of 17yr old Thai student, Samaphan "Cher" Srithep, after being shot by Thai Army in 2010

What is also extraordinary is that Abhisit, a man who sent Thai Army snipers onto Bangkok's streets in 2010 to shoot young people and children, would use a reputable children's charity to promote himself.

Take the case of 14year old Kunakorn "Isa" Srisuwan who was shot on May 15th 2010 in central Bangkok during the bloody and brutal crackdown ordered by former PM Abhisit when pro-democracy protests were being held after his party were installed in power via court and army chicanery in 2008. Kunakorn was shot and killed by the Thai Army during the same incident which killed Phan Khamkong, the taxi driver whose murder Abhisit is being prosecuted for. 

I've posted the case of 17yr old Thai student, Samaphan "Cher" Srithep before. He was left to bleed to death on a Bangkok street after being shot, in the head, by Abhisit's Thai Army snipers. His sister's moving  account of  her brother's death should be read out to every board member of the Thai Children's Trust.

Today he was impertinent enough to go into the danger zone. Someone in there was cruel enough to shoot him until he fell. The blood from his head left a long trail. I guess he didn’t die immediately. He must have suffered immense pain. I don’t know what it feels like for a body to still be breathing, for the pulse to still be racing, while your head lies smashed on the pavement like a watermelon dropped from a great height.  

He laid there for almost an hour before the rescue people managed to bring out that faintly breathing body. The soldiers would not let anyone go in to help him. They shot everyone who tried to do so. One of the rescue people nearly got shot in the arm. 

The doctor said he died at the hospital. That shocked me and made me cry. It meant that for an unbearably long time Cher must have been aware that it was his own head lying on the pavement like a smashed watermelon. 

UPDATE 2 with VIDEO: On King's birthday Thai royalists threaten to turn Red Shirt street vendor into "fertiliser".

UPDATE 2: We've now found another source of the video of the attack (h/t to "Dan") on the Red Shirt vendor. It's quite clear that the crowd is whipped up into quite a frenzy. Maybe it's only a matter of time before the royalists start hanging people from Bangkok's trees again?

UPDATE: It seems like the video has now been removed. We do, however, have a photo of the vendor being attacked below and the screen grab of the opening frame of the original video. The first picture is from a bizarre Facebook site called "Dislike Yingluck for Concentration Citizen" and includes various death threats by a variety of Thai royalists. One by a Ta Piyawan states in Thai that the vendor should be "detained" and then taken away where, after the royal celebrations, the vendor can suffer some "harsh treatment" and turned into "fertiliser".

As 1000s of Thais gather today in Bangkok to pay homage to the Thai king on his 85th birthday it didn't take long for the more fanatical royalist element to make their feelings known.

A single female street vendor near Kasetsart University had the temerity to sell a few products showing the picture of the elected Thai Prime Minister, Yingluck Shinawatra and to wear some red coloured clothing.

As can be seen from the following video, the vendor was surrounded by an enraged mob who screamed abuse and attempted to damage the vendor's goods.

This is fairly typical behaviour from Thailand's royalists who have a long record of using extreme violence, threats and intimidation against those who dare to dissent against the dominant royalist view.

Luckily, on this occasion, a police officer steps in to protect the woman. In the past, royalists such as the Red Guar, have been involved in terrible massacres such as the one at Thammasat University in 1976.

Letting the snipers and dogs loose, Democrat Party style

An air of desperation seems to be creeping into the Democrat Party leadership of late.

Not only are Abhisit and Suthep facing a possible criminal investigation regarding the death of an unarmed Red Shirt taxi driver in 2010, it's also been revealed, once again, that their brutality is matched only by their incompetence.

Amid looney accusations from Democrat Party deputy leader, Korn, that Yingluck's government is like "Hitler" and off the back of this weekend's Pitak Siam protest debacle, when protesters drove trucks into police lines and threw tear gas, Abhisit's party is foolishly attempting to take some kind of moral high ground.

However, no-one is fooled by the Democrat's silly posturing. Least of all a group of elderly peaceful cassava farmers who had the temerity to protest against the then Chuan Leekpai Democrat Party-led government on October 27th 1999. Back then the Democrats sent these farmers a message they'd never forget - they set a pack of German Shepherds on them.

Of course the Abhisit regime's appalling and brutal handling of protesters in 2010 overshadows this event by some margin. In 2010 the Democrat Party set the snipers loose and shot unarmed civilians just like 17year Samaphan "Cher" Srithep in the video below, who was left to bleed to death on a Bangkok street.

UPDATE: Pitak Siam throwing tear gas/driving trucks at Thai police

The question of who threw tear gas first at Saturday's Pitak Siam protest now seems to have been solved after a remarkable video recorded by a flying mini-drone clearly reveals the protesters throwing what appears to be a gas grenade into Thai police lines.

The video clip below shows, from about 1min 40secs, the Pitak Siam protesters beginning to attack the police. At 1min 50secs a white gas can clearly be seen beginning to blow amongst the Pitak Siam supporters and then at 1min 53secs an object, trailing the same white gas, is thrown at the police, causing them to disperse slightly. Keep watching until for another 30seconds or so and it is even more clear the original gas grenade thrown by Pitak Siam is spreading out amongst the police. Furthermore a simple count of gas trails between the two camps shows, initially, a higher number of gas grenades being thrown from the protesters side towards the police. At the very least it appears the protesters had their own gas canisters.

It would be pretty hard for any credible and verifiable source to debunk this new evidence and it now seems almost certain that Pitak Siam were responsible for escalating the confrontation.

Bangkok Pundit also mentions the tear gas attack in his recent post on the rallies and concludes

It is hard to tell exactly who started firing/throwing the tear gas

More bizarrely regarding the tear gas attack Bangkok Pundit cites an anonymous internet troll and cyberstalker who usually specialises in the internet stalking of women using threatening graphic sexual commentary and extreme racism, samples of which can be found here and here. Maybe Bangkok Pundit will cite Violentacrez in his next post on Thailand's rice pledging policy?

On balance readers have to make their own judgement. It seems self-evident that Pitak Siam were intent on hurting and attacking police officers and given the other evidence - such as protesters driving a truck directly into the police officers - the likelihood of them throwing teargas (weapons of all kind are easily accessible in Thailand) at the police is apparent.

Korn compares Thai government to Hitler: has he lost his mind?

About 18months ago I interviewed Thailand's then Finance Minister, Democrat Party Deputy Leader Korn Chatikavanij - my interviews with him can be found here and here.

On the two occasions that I met Korn I found him to be erudite, articulate and willing to engage on a number of subjects and policy details.

A dual-British/Thai national, the UK-born Korn attended Winchester College and later studied politics, philosophy and economics at Oxford. Urbane, well-educated and with a cosmopolitan air, it's hard not to be impressed by Korn, not least because at roughly 6ft 4inches tall he has quite an imposing physical presence as well. While I disagreed with him on a number of subjects I found him personally charming and certainly likeable.

So, his comments on his Facebook page today (see screen grab in Thai just below) come as a complete shock.

In a rambling monologue Korn complains about the government's handling of this weekend's Pitak Siam protests. Utilising that tried and tested logical fallacy - the false equivalence  - he states that the government used the police to assault the protesters and that the Red Shirts abandoned their own principles by supporting such actions.

Of course the simple facts that Pitak Siam's publicly stated aims were to destroy democracy and create conditions for a military coup are oddly missing from Korn's narrative. Also the fact that the Pitak Siam protesters drove a large truck directly into police lines and attacked them with sticks and other weapons. Then there's the tiny inconvenient detail that the present ruling government party, Pheu Thai, has an overwhelming parliamentary majority, something his party has not achieved in its 66years of existence. Absent too is that when the government he served in were faced with Red Shirt protesters in 2010 they sent Army snipers onto the streets and shot nurses and school children.

But it was the final part of Korn's rambling comment that raises questions about his mental state.

Using an arcane Adolf Hitler quote (is it only me who finds it odd Korn could quote Hitler so readily?) Korn states that

"The Red Shirt government thinks and behaves like this [like Hitler] - therefore they will end up the same as/not different from Hitler."

To make this bizarre claim is straight out of the nuttiest Thai extremist handbook. The Second World War killed almost 70million people, unleashing unspeakable horrors and crimes on the world. Hitler committed the worst of these crimes, including the terrible slaughter of 6million Jewish men, women and children and 12million Soviet civilians.

It is an utter obscenity for Korn to make a comparison between firing a dozen or so tear gas grenades at violent protesters and Hitler's genocidal slaughter of millions. He should not only be widely ridiculed for making this comparison but condemned as well.

I am quite right to question his sanity in such circumstances and can only hope he sees the error of his ways and offers an immediate retraction and apology.

Thai neo-fascists attacked with snakes

A large number of snakes were released this evening in an encampment of supporters of the Thai neo-fascist movement, Pitak Siam.

A report of the incident can be found on the extreme rightwing Manager website here.

The report says that someone dropped a bag of snakes near a group of fanatical Buddhists known as the  Dhamma Army, who are aligned with Pitak Siam.

The species of the snakes is not known and nor is it known if they are poisonous or not.

Pitak Siam are an extreme rightwing movement run by a group of elderly generals and supported by Abhisit Vejjajiva's "Democrat Party". They are staging a protest this weekend in Bangkok to further their aims of   destroying Thai democracy, removing the democratically-elected Yingluck Shinawatra-led government and shutting down, or "freezing",  Thailand for five years.

The snake incident recalls a famous threat made by the Red Shirt-aligned militant renegade Thai Army officer, Major General Khattiya Sawasdipol aka Seh Daeng. In a 2008 interview with the Straits Times journalist Nirmal Ghosh, Seh Daeng had threatened to throw snakes from a helicopter onto the neo-fascist Yellow Shirt PAD movement. Seh Daeng was assassinated in 2010, most likely by one of his former Thai Army colleagues.

Pitak Siam: "We have no control."

After "guards" of the neo-fascist Pitak Siam movement launched an unprovoked physical assault on pro-democracy Green Light activists today at Nang Lerng, MCOT are reporting that representatives of Pitak Siam have stated that the movement has "no control" over their own supporters.

Whilst issuing an apology for the attack a representative of the Pitak Siam youth movement Mr Wasin also stated the Pitak Siam guards became so angry when they saw Green Lights they "couldn't contain their anger."

This startling admission by Pitak Siam is a genuine cause for concern. That benign student activists holding placards evinces violence we can plainly see the game plan of Pitak Siam emerging. The need for the democratically-elected government to protect itself from violent fascists by invoking the ISA is now self-evident.

The video of part of the attack is here.

UPDATE: With video. Violent Thai neo-fascist Pitak Siam group attack student activists

Reports are coming in that a mob of 400 supporters of the neo-fascist and anti-democratic Pitak Siam movement attacked and beat up members of the pro-democracy Green Light student activist group.

A report in Thai can be found here.

A video has also emerged of what appear to be Pitak Siam supporters threatening and abusing Green Light activists (h/t @ZeitgeistTH)

A source has made the as yet unconfirmed report that at least one member of Green Light was surrounded by 5 Pitak Siam supporters and "punched".

The attack allegedly occurred at the Nang Lerng intersection near the Royal Turf Club, one of the sites that will be used by the Pitak Siam movement during their protests this coming Saturday, 24th November.

Members of Green Light protesting (from go6tv.com)

Pitak Siam are a self-proclaimed movement against democracy whose sole aim is to overthrow the democratically elected government and replace it with an unspecified form of government that will "freeze Thailand" for 5years. They are aiming to bring 100,000 anti-democracy protesters onto the street amid very strong and well-founded rumours that Pitak Siam will use violence to force a confrontation with the government. Pitak Siam are also backed by the Thai "Democrat Party" - which is led by British-born/national former Thai PM, Abhisit Vejjajiva.

In response to Pitak Siam the government has invoked the Internal Security Act - please read my discussion about this law here.

Sitting on the fence: Debunking False Equivalence

As the openly self-proclaimed fascistic and anti-democracy Pitak Siam movement get set to march in Bangkok this weekend, Thailand’s government have invoked a very limited use of the Internal Security Act (ISA). It will be employed for 9days in a few, small areas of Bangkok. As far as I’m aware there has been no call to ban the Pitak Siam protest, so their rights to peaceful assembly have been maintained.

However, some voices have been raised in concern as to the use of the tough ISA security laws and their impact on civil liberties.

The line being put out is that using the ISA laws now is no different to when Abhisit’s unelected, unpopular and unmandated regime used them in 2010.

When the actual evidence is looked at, this “false equivalence” (a classic argumentative device used by those who actually don’t have any argument) is easily debunked. Here’s why.

First lets compare the governments of the Pheu Thai Party and The Democrat Party.

The present Pheu Thai Party government won a landslide election victory in 2011. This was the 5^th straight election win for the various re-incarnations of the Thai Rak Thai party from which PTP sprung. They have a very clear democratic mandate to govern, winning a single-party parliamentary majority and had a bigger share of the Thai electorate voting for them in 2011 than any single party in any European democracy. To claim that PTP have no legitimacy to govern is to attack democracy itself.

The last time the Abhisit Vejjajiva-led Democrat Party won the largest number of seats in the Thai parliament was in 1992. The Democrat Party has never won an outright majority. The only time it has taken power in recent years (2008) was after aligning itself with neo-fascists, dodgy generals and the corrupt Newin Chidchob’s Bhum Jai Thai Party – a political entity that wasn’t even in existence when its members that made up Abhisit’s 2008 "Coalition of the Anti-democratic" were elected in 2007. In short, Abhisit’s government was as democratic to the same degree as the earth is flat.  It lacked the democratic legitimacy needed to clean Bangkok’s toilets never mind govern the country. However, this didn’t stop Abhisit’s government sending snipers onto the streets of Bangkok to shoot nurses and school children in 2010 in order to cling onto power. Over 90 unarmed civilians died in 2010 as a result.

Only the most myopic and delusional would claim that there is some “equivalence” of democratic legitimacy between the PTP and Democrat governments.

Now onto Pitak Siam and the Red Shirts.

Pitak Siam’s (PS) avowed publicly proclaimed aim is to destroy democracy, throw out the democratically elected PTP government and then shut the country down for five years. To ratchet up tension PS have deliberately sowed rumours of violence and chaos up to and including shutting down Bangkok’s electric and water supplies. They are backed by a handful of very wealthy Thais and whilst they can call on a few thousand followers have no mandate whatsoever. Their "aims" seem to be driven by a peculiar form of nihilism that offers Thailand nothing other than chaos and violence. They are, of course, backed by Abhisit’s Democrat Party.

The Red Shirts protests in 2010, which were estimated to reach over 300,000 persons at their height, called, simply, for Abhisit to test his government’s legitimacy with an election. When the Democrat Party government finally did call one in 2011 they were hammered, returning with less seats than they managed in 2007. The Red Shirt aligned PTP, as outlined above, won in a landslide.

So, we have one protest group seeking to destroy democracy and one seeking to restore it. To claim they are “equivalent” is, once again, absurd.

Now onto the invocation of the ISA.

When the Abhisit Vejjajiva government invoked the ISA in 2009 and 2010 it was used to apply lethal force to attack democracy and keep the Democrat Party’s unelected, unmandated and anti-democratic government in power. The ISA was used purely for anti-democratic means.

The PTP government are being threatened by a group whose sole aim is to overthrow and destroy democracy and who appear to be more than willing to use violence to do so. It’s very clear that Pitak Siam need to be curtailed and it’s very clear that the ISA is being invoked to protect democracy.

To claim that the use of the ISA by an unelected government to attack pro-democracy protesters is equivalent to the use of the same law to protect an obviously democratically elected government from a potentially violent fascistic tiny minority is not only disingenuous it is dangerous.

It’s my view that Yingluck’s government has a duty to protect both Thai democracy and Thai citizens from Boonlert’s fascists and Mark Abhisit’s maniacal lust for power.

Those looking for a fence to sit on always find excuses as to why they lack courage, principle and conviction. False equivalences provide an easy but logically false way out that employs the kind of weak arguments a child could debunk.

I wish that there was no need to invoke the ISA but its present very limited use to protect democracy is entirely appropriate. Let’s hope this weekend passes off peacefully and Pitak Siam scuttle back under the stones from whence they came.